พูดภาษาอังกฤษได้อาจยังไม่พอ: เจาะลึกเคล็ดลับการสอบ IELTS (Part Speaking)

พร้อมตัวอย่างข้อสอบ ให้ดาวน์โหลดกันไปลองกันได้ ฟรี!

 

ในการสอบวัดระดับภาษาอังกฤษแบบ IELTS (International English Language Testing System) นั้น ส่วนที่ถือว่ามีความสำคัญและสามารถบ่งบอกถึงความรู้ความสามารถของผู้สอบได้อย่างดีนั้น คงหนีไม่พ้นในส่วนของการสอบพูด (Speaking) เนื่องจากในส่วนนี้ จะต้องใช้ระยะเวลาในการเตรียมความพร้อม และมีองค์ประกอบหลากหลายส่วนไม่ว่าจะเป็นความเข้าใจในเรื่องของโครงสร้างประโยค(Grammar) คำศัพท์ที่ใช้ซึ่งต้องมีความเหมาะสมกับสถานการณ์ (Vocabulary) ทักษะการฟังที่จะต้องใช้ สำหรับการฟังคำถามจากคู่สนทนา(Listening) และ ส่วนที่สำคัญที่สุด คือ ความคุ้นชินกับการใช้ภาษาอังกฤษ เพื่อที่จะสามารถตอบคำถามได้อย่างลื่นไหลและเป็นธรรมชาติมากที่สุด

ดังนั้น เรามาลองทำความรู้จักกับส่วนของการพูด (Part Speaking) ในการสอบ IELTS ให้มากขึ้น เพื่อที่เราจะได้เตรียมตัวและเตรียมความพร้อมได้อย่างถูกวิธี ในระยะเวลาที่รวดเร็วขึ้นกันค่ะ

1. การสอบ Speaking-IELTS ประกอบด้วย 3 ส่วนย่อย:

สำหรับผู้ที่สอบ IELTS เป็นครั้งแรก ข้อควรรู้ที่สำคัญก่อนที่จะสอบนั้นคงหนีไม่พ้นโครงสร้างของข้อสอบในแต่ละส่วน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเวลา จำนวนข้อ หรือลักษณะเด่นของข้อสอบ ซึ่งจะทำให้คุณสามารถเตรียมความพร้อมได้อย่างถูกต้อง สำหรับส่วนของการพูด (Speaking) ในการสอบ IELTS นั้น ลักษณะการสอบจะเป็นการสนทนาส่วนตัว ระหว่างผู้เข้าสอบกับผู้คุมสอบ ระยะเวลาที่ใช้สำหรับการสอบทั้งหมดประมาณ 11-14 นาที โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วนย่อยดังต่อไปนี้

ส่วนที่ 1 : Introduction and interview (4-5 นาที): ในส่วนนี้จะเป็นการเปิดโอกาสให้เราได้แนะนำตนเองคร่าวๆ และผู้คุมสอบจะทำการสอบถามเรื่องทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับตัวเราในระยะเวลาสั้นๆ เช่น อาชีพที่ทำอยู่, ประสบการณ์ด้านการศึกษา, ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับครอบครัว, กิจกรรมที่ชอบหรืองานอดิเรก เป็นต้น แม้ว่าในส่วนนี้จะดูเหมือนง่ายดาย แต่อย่าลืมว่าการสอบพูด IELTS นั้นไม่เหมือนกับการสอบสนทนา Conversation ทั่วไป หากคุณสามารถอธิบายหรือใช้คำศัพท์ที่โดดเด่นกว่าผู้อื่น มีความเหมาะสมกับสถานการณ์หรือเหตุการณ์ บทสนทนามีความลื่นไหลไม่ติดขัด ไม่ถามคำตอบคำ ก็อาจทำให้คุณได้คะแนนในส่วนนี้เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

ส่วนที่ 2 : Long turn (3-4 นาที): ในส่วนที่สองนั้น จะมีความท้าทายมากยิ่งขึ้น เมื่อผู้คุมสอบจะให้คุณเลือกหยิบการ์ดคำถามขึ้นมาหนึ่งแผ่น ซึ่งคุณจะต้องอภิปรายหรือพูด Speech เกี่ยวกับ Concept ที่คุณจับได้ คุณจะมีเวลาในการเตรียมตัว 1 นาทีหลังจากที่ได้จับการ์ดมา รวมถึงได้กระดาษและปากกาในการเตรียมความพร้อมอีกด้วย

สำหรับส่วนนี้ ในการเตรียมตัวก่อนสอบ คุณอาจต้องอาศัยการอ่านและการฟังที่ครอบคลุมในหลากหลายด้าน และสาขาวิชา เนื่องจากคำศัพท์ที่คุณได้รับอาจเป็นคำศัพท์เฉพาะทางที่คุณไม่คุ้นเคย ซึ่งอาจทำให้คุณไม่มีไอเดียในการพูดที่ดีพอ นอกจากนี้ คุณจะต้องไม่หลงประเด็นในการพูด และต้องมีความพร้อมที่จะตอบคำถามที่อาจมาจากผู้คุมสอบได้ทุกเมื่อ

ส่วนที่ 3 : Discussion (4-5 นาที): ในส่วนสุดท้ายนี้ จะเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้เข้าสอบและผู้คุมสอบได้แลกเปลี่ยนแสดงความคิดเห็น และวิสัยทัศน์ต่อประเด็นที่อยู่ในส่วนที่ 2 โดยนอกจากทักษะภาษาอังกฤษและทักษะการพูดแล้ว ในส่วนนี้ยังวัดในเรื่องของหลักการคิดวิเคราะห์ และหลักความเชื่อมโยงอีกด้วย

2. หลักเกณฑ์ในการให้คะแนนในการสอบ Speaking-IELTS:

หลักเกณฑ์ในการให้คะแนนในการสอบ IELTS ในส่วนของการพูดนั้น มีดังต่อไปนี้

1.Fluency and Coherence: ความไพเราะ ความเหมาะสมในการใช้ภาษา และความเชื่อมโยงสอดคล้องในการพูดแต่ละประเด็น

2.Lexical Resource: การใช้คำศัพท์ที่เหมาะสมในแต่ละบริบท ซึ่งสามารถใช้คำศัพท์ได้อย่างกว้างขวางทั้งทางนัยยะและระดับของภาษา

3.Grammatical Range and Accuracy: การใช้โครงสร้างทางภาษาได้อย่างถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ Verb/Tense การวางรูปประโยค และทุกส่วนประกอบที่เกี่ยวข้องกับ Grammar

4.Pronunciation: การออกเสียงหรือสำเนียงที่ถูกต้อง ความสามารถในการสื่อสาร ที่จะทำให้เจ้าของภาษาเข้าใจในสิ่งที่พูดได้อย่างชัดเจน

3. หัวข้อยอดฮิตในการสอบ Speaking-IELTS:

หลังจากที่เราได้เรียนรู้โครงสร้างและ Concept หลักๆในส่วนของข้อสอบการพูด IELTS แล้ว เรามาลองดูตัวอย่างคำถามยอดฮิต ที่เรามักจะพบในการสอบกันค่ะ

ส่วนที่ 1 : Introduction and interview:

Do you like your name?

What are the health benefits of playing sports?

What do you do for fun?

How often do you shop for clothes?

How often do you travel away from your city?

Who do you like to spend your time with?

Where would you like to go for your holiday?

Where is your favourite place?

ส่วนที่ 2: Long turn:

Describe a piece of art you like.

Describe a book you have recently read.

Describe a time of the day you like.

Describe an area of your country.

Talk about a subject you are studying.

Describe the best present you have received.

ส่วนที่ 3: Discussion:

Topic: Company

What factors can affect a company’s development?

What are the advantages and disadvantages to work in a large company?

Is it difficult to get a promotion to a large company?

Topic: Animals

What can we do to protect rare species of animals?

How to stop humans from harming the environment?

Is it important for children to learn about animals?

Topic: Tradition

Do you know any other traditions?

Are there any changes in modern and traditional lifestyles?

Why did the attitude towards traditional lifestyle change?

4. ประโยคเด็ดเคล็ดลับในการสอบ Speaking-IELTS:

ในการสอบพูดภาษาอังกฤษนั้น คุณควรมีประโยคเด็ดที่สามารถช่วยให้คุณดูโดดเด่น หรืออาจช่วยคุณได้ในยามที่เกิดสถานการณ์คับขัน เช่น ยังนึกสิ่งที่จะพูดไม่ออก,ฟังสิ่งที่ผู้คุมสอบถามไม่ทัน จับประเด็นไม่ได้ หรือแม้กระทั่งต้องการหลีกเลี่ยงการจบประโยคที่ฟังดูห้วนจนเกินไป เป็นต้น เพื่อที่จะทำให้การพูดของคุณไม่ดูติดขัด และมีความเป็นธรรมชาติในการพูดมากยิ่งขึ้น ประโยคที่ควรเรียนรู้ ท่องจำ และนำไปใช้ มีดังต่อไปนี้

    1. “To be honest, I’m not quite familiar with this topic, But, if you have to ask me, I guess I would say that…”: ประโยคนี้สามารถนำไปใช้ได้เมื่อคุณต้องพูดในเรื่องหรือหัวข้อที่คุณ อาจไม่คุ้นชินในชีวิตประจำวันมากเท่าไหร่นัก ส่วนมาก มักเป็น หัวข้อ ใน ส่วนที่ 2 ที่อาจเป็นเรื่องเฉพาะทาง เช่น เรื่องสิ่งแวดล้อม เรื่องสัตว์บางประเภท หรือกิจกรรมที่คุณไม่ค่อยได้ให้ความสนใจมากเท่าใดนัก การพูดประโยคนี้เหมือนเป็นการแจ้งให้ผู้คุมสอบเข้าใจและรับทราบก่อนว่า ประเด็นดังกล่าวอาจเป็นเรื่องไกลตัวสำหรับผู้เข้าสอบ หากแต่เราสามารถกลบข้อด้อยได้โดยการใช้ภาษาอังกฤษที่ถูกต้องทั้งตามหลักไวยกรณ์ คำศัพท์ที่เหมาะสม เพื่อให้คุณสามารถคงคะแนนในระดับที่ดีได้
    2. “Let me think about that for a moment”: ใช้เมื่อคุณต้องการเวลาในการคิดเพิ่มเติม เนื่องจากการเงียบไปเลยโดยไม่แจ้งผู้คุมสอบก่อน อาจทำให้บทสนทนาเกิดความติดขัด เกิดความกระอักกระอ่วนได้ดังนั้น คุณจึงควรแจ้งผู้คุมสอบว่าต้องการเวลาเพิ่มเติม เพื่อให้เขาเข้าใจ และถือเป็นมารยาทที่ดีอย่างหนึ่งในการสนทนาอีกด้วย
    3. “I’m sorry, I didn’t get the question/I didn’t catch that. Could you say it again please?”: ในบางครั้ง คุณอาจจับประเด็นสิ่งที่ผู้คุมสอบถามไม่ได้ หรือฟังไม่ทัน ไม่ต้องเป็นกังวลเลยค่ะ คุณสามารถใช้ประโยคดังกล่าวในการถาม เพื่อให้ผู้คุมสอบถามคำถาม หรืออธิบายสิ่งที่ถามเพิ่มเติมได้ ซึ่งจะทำให้คุณสามารถตอบคำถามได้ถูกต้อง และตรงประเด็นมากกว่าการปล่อยผ่าน แล้วตอบในสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องในภายหลัง
    4. “In my opinion, I believe that…”: ในบางคำถาม คุณอาจไม่สามารถตอบในรูปแบบถูกหรือผิดได้ เนื่องจากเป็นหัวข้อที่แต่ละบุคคลอาจมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ดังนั้น การใช้ประโยคนี้เกริ่นนำก่อนเริ่มต้นคำตอบ จะทำให้คำพูดของคุณดูไม่ปิดกั้นมากเกินไป และคุณอาจใช้โอกาสนี้ในการขอความคิดเห็นจากฝั่งของผู้คุมสอบได้อีกด้วย
    5. “What I am trying to say is…”: การตอบคำถามที่มีหลากหลายประเด็นหรือมีความซับซ้อนอาจทำให้ผู้คุมสอบไม่สามารถจับประเด็นที่คุณจะตอบได้ง่ายนัก ดังนั้น คุณสามารถใช้ประโยคนี้พูดเพื่อสรุปในสิ่งที่คุณต้องการจะตอบจริงๆ อย่างตรงประเด็น

สำหรับการสอบพูด IELTS นั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือระยะเวลาในการเตรียมความพร้อม และความคุ้นชินกับการพูดภาษาอังกฤษอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น หากคุณมีเวลาเตรียมตัวไม่มากนัก แต่ต้องการให้คะแนนออกมาดีที่สุด การเรียนพิเศษอาจเป็นตัวเลือกสำคัญที่จะทำให้คุณได้คะแนนในส่วนนี้ตามที่คาดหวังไว้ได้ค่ะ หากคุณสนใจที่จะเรียนให้สอบได้คะแนน IELTS ที่คุณต้องการ ที่โรงเรียนสอนภาษาอินไซท์ (Insight) เรามีหลักสูตรเตรียมสอบ IELTS ที่ดีที่สุดจากอาจารย์ที่เชี่ยวชาญที่สุด ลงทะเบียนกับเราวันนี้ เพื่อรับโปรโมชั่นสุดพิเศษ สำหรับ เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ และเรียนตัวต่อตัว

Insight ได้เตรียมตัวอย่างข้อสอบ IELTS Speaking Test มาให้ทุกท่านได้ลองเตรียมตัวเพื่อเป็นแนวทาง ฟรี สามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้ ที่นี่